วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2552

ครูภาษาอังกฤษ

นักวิชาการชี้ อุปสรรคการสอนอังกฤษ ครูไม่กล้าพูด-จบไม่ตรง


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
31 มีนาคม 2552 08:58 น.


ภาพประกอบจากอินเทอร์เนต
หัวหน้าศูนย์ภาษาอังกฤษฯ ม.มหิดล เผยผลวิจัย ทัศนคติของครูสอนอังกฤษ ชี้ครูส่วนใหญ่ ขาดความเชื่อมั่น- ไม่กล้าพูด เหตุไม่ใช่เจ้าของภาษา ไม่ได้จบเอกอังกฤษโดยตรง กลัวสำเนียงผิดเพี้ยน แนะครูปรับทัศนคติ กล้าพูด จัดกิจกรรมเชื่อมบริบทสังคม ฝึกเด็กพูดคุยกับชาวต่างชาติ พร้อมฝากพ่อแม่ เลือกวัยให้เหมาะสมในการเรียนภาษา อย่ามองแค่ว่ายิ่งเรียนตั้งแต่เด็กยิ่งดี ดร.สิงหนาท น้อมเนียน หัวหน้าศูนย์ภาษาอังกฤษ และภาษาศาสตร์ประยุกต์ สำนักสังคมศาสตร์และศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี กล่าวว่า จากผลกรณีศึกษาวิจัยเกี่ยวกับทัศนคติของครูสอนภาษาอังกฤษในระดับมัธยมศึกษา ในโรงเรียนบริเวณ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี พบว่า ครูส่วนใหญ่มีทัศนคติไม่ดีในการสอนภาษาอังกฤษ คือ ครูไม่มีความมั่นใจในการสอนภาษาอังกฤษ เพราะตนเองไม่ได้จบเอกภาษาอังกฤษมาโดยตรง หรือคนที่จบเอกภาษาอังกฤษมาโดยตรงก็กลับมองว่าตนเองนั้นคงสอนได้ไม่ดีเท่ากับครูชาวต่างชาติเจ้าของภาษา เนื่องจากไม่ใช่เจ้าของภาษา ทำให้ไม่กล้าสอน ไม่กล้าพูด เพราะกลัวสำเนียงผิดเพียน ซึ่งทัศนคติของครูลักษณะดังกล่าว ส่งผลให้รูปแบบการเรียนการสอนด้อยพัฒนา ส่งผลให้นักเรียนที่อาจจะมีความกล้า กลายเป็นไม่กล้าพูด สนทนาด้วยภาษาอังกฤษต่อหน้าคนอื่น และเมื่อไม่พูด ก็จะทำให้เด็กนำไปใช้ไม่ได้ สื่อสารไม่เป็น “การพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ครูเองต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติที่ดีต่อภาษาอังกฤษ ให้มั่นใจในตนเอง กล้าพูด กล้าสนทนากับเด็ก ต่อให้สำเนียงผิดเพี้ยนไป เพราะถึงจะไม่ใช่เจ้าของภาษา แต่ถ้ารู้จักพูด รู้จักนำไปใช้ อย่างชาวต่างชาติ เช่น คนญี่ปุ่น ออสเตรเลีย หรืออเมริกา ฯลฯ ซึ่งพูดภาษาอังกฤษได้ แต่สำเนียงของพวกเขา ก็ไม่เหมือนคนอังกฤษ ดังนั้น ครูทุกคนต้องพัฒนาการใช้ภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่อง และคำนึงอยู่เสมอว่าภาษาอังกฤษขณะนี้ ไม่ใช่เป็นภาษาของประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เป็นภาษานานาชาติไปแล้ว” ดร.สิงหนาท กล่าว ทั้งนี้ในส่วนการจัดการเรียนการสอน ต้องกระตุ้นให้นักเรียนรัก เข้าใจ และกล้าสนทนากับชาวต่างชาติ โดยครูต้องเชื่อมบริบทของสังคม ชุมชน เช่น ชุมชนบริเวณโรงเรียน อ.ไทรโยค มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาก ครูสามารถทำให้นักเรียนตระหนักถึงความหลากหลายของภาษาอังกฤษ และช่วยสร้างความมั่นใจในการพูดให้เด็กได้ โดยชวนเด็กออกไปพูดคุย ทำกิกจรรมกับนักท่องเที่ยวบ่อยๆ เพราะทำให้เด็กได้รู้ว่าชาวต่างชาติใช้ภาษาอังกฤษได้ ถึงแม้สำเนียงแตกต่างกัน จะทำให้เด็กกล้าพูด และรู้จักนำภาษาอังกฤษมาใช้ ดร.สิงหนาท กล่าวถึงกรณีที่ในปัจจุบันผู้ปกครองมักจะส่งบุตร หลานเรียนภาษาตั้งแต่เด็กว่า เท่าที่ได้พูดคุยกับพ่อแม่ ส่วนใหญ่มักจะมองว่าควรส่งลูกเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่อายุยังน้อย ยิ่งอายุน้อยเท่าใดยิ่งดี แต่การส่งลูกเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็ก เหมือนดาบสองคม คือหากลูกเรียนแล้วแยกแยะได้ เป็นการฝึกทักษะ สร้างความคุ้นเคย ก็จะทำให้เด็กเก่งภาษาอังกฤษได้ แต่หากเด็กยังเล็กเกินไป ไม่สามารถแยกแยะอะไรได้ เด็กจะเกิดความสับสน และไม่รู้ว่าภาษาไหนเป็นภาษา และวัฒนธรรมของตนเอง เพราะตอนอยู่โรงเรียนพูดภาษาอังกฤษแต่พอกลับบ้านมีแต่คนพูดภาษาไทย ดังนั้นจึงอยากให้ผู้ปกครองที่ต้องการให้ลูกเก่งภาษา ไม่เพียงแต่ภาษาอังกฤษนั้นก็ควรเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม ไม่ใช่มองว่ายิ่งเด็กยิ่งดี

วันพุธที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2552

การเรียนการสอนป.4

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จัดการเรียนการสอนทั้งหมด 4 ห้องเรียน ดังนี้
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 ครูประจำชั้น คือ.................................
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 ครูประจำชั้น คือ.................................
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/3 ครูประจำชั้น คือ.................................
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/4 ครูประจำชั้นคือ...................................
ครูพิเศษประจำสายชั้น คือ 1..........................................
ครูพิเศษประจำสายชั้น คือ 2.........................................
ครูพิเศษประจำสายชั้น คือ 3..........................................

แนะนำตนเอง


นางปิยะพร คิดรอบ ครูโรงเรียนอนุบาลเมืองนครสวรรค์ (เขากบ วิวรณ์สุขวิทยา)

เพลงภาษาอังกฤษ

เพลง Verb to be
Verb to be มีอยู่ 3 ตัว มี 3 ตัว มี 3 ตัว
Verb to be มีอยู่ 3 ตัว คือ is am are
He She It เราใช้กับ is ใช้กับ is ใช้กับ is
You We They เราใช้กับ are ใช้กับ are
ใช้กับ are
ส่วน I ใช้ am